เมนู

6. อัปปสุตสูตร


ว่าด้วยบุคคลผู้มีสุตะ 4 จำพวก


[6] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล 4 จำพวกมีปรากฏอยู่ในโลก
บุคคล 4 คือใคร คือ บุคคลผู้สดับน้อย (เรียนน้อย) ทั้งไม่ได้ประโยชน์
เพราะการสดับ 1 บุคคลผู้สดับน้อย แต่ได้ประโยชน์เพราะการสดับ 1 บุคคล
ผู้สดับมาก (เรียนมาก) แต่ไม่ได้ประโยชน์เพราะการสดับ บุคคลผู้สดับ
มาก ทั้งได้ประโยชน์เพราะการสดับ
บุคคลผู้สดับน้อย ทั้งไม่ได้ประโยชน์เพราะการสดับเป็นอย่างไร ?
(นวังคสัตถุศาสนา คำสอนของพระศาสดามีองค์ 9 คือ) สุตตะ เคยยะ
เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ
บุคคลบางตนในโลกนี้ได้สดับน้อย ทั้งเขาหารู้อรรถ (คือเนื้อความ) รู้ธรรม
(คือบาลี) แห่งคำสอนอันน้อยที่ได้สดับนั้น แล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ไม่ บุคคลผู้สดับน้อย ทั้งไม่ได้ประโยชน์เพราะการสดับ เป็นอย่างนี้แล.
บุคคลผู้สดับน้อย แต่ได้ประโยชน์เพราะการสดับเป็นอย่างไร ?
(นวังคสัตถุศาสนา คำสอนของพระศาสดามีองค์ 9 คือ) สุตตะ ฯลฯ เวทัลละ
บุคคลบางตนในโลกนี้ได้สดับน้อย แต่เขารู้อรรถรู้ธรรมแห่งคำสอนอันน้อย
ที่ได้สดับนั้นแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม บุคคลผู้สดับน้อย แต่ได้
ประโยชน์เพราะการสดับ เป็นอย่างนี้แล.
บุคคลผู้สดับมาก แต่ไม่ได้ประโยชน์เพราะการสดับเป็นอย่างไร ?
(นวังคสัตถุศาสนา คำสอนของพระศาสดามีองค์ 9 คือ) สุตตะ ฯลฯ เวทัลละ
บุคคลบางคนในโลกนี้ได้สดับมาก แต่เขาหารู้อรรถรู้ธรรมแห่งคำสอนเป็นอัน

มากที่ได้สดับนั้นแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมไม่ บุคคลผู้สดับมาก แต่
ไม่ได้ประโยชน์เพราะการสดับ เป็นอย่างนี้แล
บุคคลผู้สดับมาก ทั้งได้ประโยชน์เพราะการสดับเป็นอย่างไร
(นวังคสัตถุศาสนา คำสอนของพระศาสดามีองค์ 9 คือ) สุตตะ ฯลฯ เวทัลละ
บุคคลบางคนในโลกนี้ได้สดับมาก ทั้งเขารู้อรรถรู้ธรรมแห่งคำสอนเป็นอันมาก
ที่ได้สดับนั้นแล้ว ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม บุคคลผู้สดับมาก ทั้งได้
ประโยชน์เพราะการสดับ เป็นอย่างนี้แล.
ภิกษุทั้งหลาย นี้แลบุคคล 4 จำพวกมีปรากฏอยู่ในโลก.
บุคคลใด ถ้าเป็นคนสดับน้อย ทั้งไม่
ตั้งอยู่ในศีล บัณฑิตทั้งหลายย่อมติเตียน
บุคคลนั้นทั้ง 2 ทาง คือทั้งทางศีล ทั้ง
ทางสดับ.
บุคคลใด ถ้าแม้เป็นคนสดับน้อย
แต่ตั้งมั่นอยู่ในศีล บัณฑิตทั้งหลายย่อม
สรรเสริญบุคคลนั้นทางศีล แต่การสดับ
ของเขาบกพร่อง.
บุคคลใด ถ้าแม้เป็นคนสดับมา
แต่ไม่ตั้งมั่นอยู่ในศีล บัณฑิตทั้งหลายย่อม
ติเตียนบุคคลนั้นทางศีล แต่การสดับของ
เขาพอการ.
บุคคลใด ถ้าเป็นคนสดับมาก ทั้ง
ตั้งมั่นอยู่ในศีล บัณฑิตทั้งหลายย่อม
สรรเสริญบุคคลนั้นทั้ง 2 ทาง คือทั้งทาง
ศีล ทั้งทางการสดับ.

ใครจะควรติบุคคลผู้ได้สดับมาก
ทั้งเป็นผู้ทรงธรรม ตอบด้วยปัญญา เป็น
สาวกพระพุทธเจ้า ราวกะแต่งทองชมพูนท
นั้นเล่า แม่เหล่าเทวดาดีย่อมชม ถึงพรหม
สรรเสริญ.

จบอัปปสุตสูตรที่ 6

อรรถกถาอัปปสุตสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในอัปปสุตสูตรที่ 6 ดังต่อไปนี้.
บทว่า อนุปปนฺโน แปลว่า ไม่เข้าถึง. ในบทมีอาทิว่า สุตฺตํ นี้
อุภโตวิภังค์ นิทเทส ขันธกปริวาร สุตตนิบาต มงคลสูตร รตนสูตร
นาลกสูตร ตุวฏกสูตร พระดำรัสของพระตถาคตแม้อื่นมี ชื่อว่าสูตร พึง
ทราบว่า สูตร. พระสูตรที่มีคาถาแม้ทั้งหมด พึงทราบว่า เคยยะ. โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในสังยุตตนิกาย สคาถวรรคแม้ทั้งหมด อภิธรรมปิฎกแม้ทั้งสิ้น สูตรที่
ไม่มีคาถา พระพุทธพจน์แม้อื่นที่ไม่สงเคราะห์เข้ากับองค์ 8 เหล่าอื่น พึง
ทราบว่า เวยยากรณะ. ธรรมบท เถรคาถา เถรีคาถา และคาถาล้วนไม่มี
ชื่อพระสูตรในสุตตนิบาต พึงทราบว่า คาถา. พระสูตร 82 สูตร ที่ประกอบ
ด้วยคาถาอันสำเร็จมาแต่โสมนัสญาณ พึงทราบว่าอุทาน. พระสูตร 110 สูตร
อันเป็นไปโดยนัยเป็นอาทิว่า วุตฺตมิทํ ภควตา พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้
ดังนี้ พึงทราบว่า อิติวุตตกะ. ชาดก 550 ชาดก. มีอปัณณกชาดกเป็นต้น
พึงทราบว่า ชาดก. พระสูตรที่ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์ไม่เคยมี แม้